การแถลงของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูมีขึ้นหลังพบกับ ‘แอนโทนี บลิงเคน’ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เดินทางเยือนอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาส ระลอกล่าสุดปะทุขึ้น
บลิงเคน ได้เผยหลังการหารือว่าในการพูดคุย สหรัฐฯ เสนอให้ความช่วยเหลืออิสราเอลต่อไป แต่ขณะเดียวกันก็ต้องการให้อิสราเอลดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปกป้องพลเมืองปาเลสไตน์ โดยสหรัฐฯ ได้ให้คำแนะนำแก่อิสราเอลว่าต้องทำอย่างไรเพื่อลดการสูญเสียชีวิตของพลเรือนให้ได้มากที่สุดไปพร้อมกับการจัดการกลุ่มฮามาส
“เนทันยาฮู” ปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงชั่วคราว หลังหารือ รมว.กต.สหรัฐฯ
สหรัฐฯ เผย พร้อมสนับสนุน อิสราเอล-ฮามาส หยุดยิงหากเงื่อนไขชัดเจน
และยังหารือถึงขั้นตอนในการเปิดทางส่งความช่วยเหลือเข้าไปในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการส่งเชื้อเพลิงเข้าไปด้วย
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าได้เรียกร้องผู้นำอิสราเอลให้มีการหยุดเพื่อมนุษยธรรม หรือ Humanitarian pause ซึ่งจะเปิดทางให้ส่งความช่วยเหลือเข้าไปในกาซา อำนวยความสะดวกในการรับรองให้ปล่อยตัวประกัน และช่วยให้อิสราเอลบรรลุเป้าหมายในการโค่นกลุ่มฮามาส
อย่างไรก็ดี หลังการแถลงของบลิงเคนจบเพียงไม่นาน นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอลก็ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ระบุว่า จะไม่ยอมเจรจาหยุดยิงใดๆ เว้นแต่ตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับเอาไว้จะถูกปล่อยออกมา รวมถึงจะไม่อนุญาตให้มีการส่งเชื้อเพลิงเข้าไปในฉนวนกาซาด้วย
ถ้อยแถลงนี้ของผู้นำอิสราเอลจึงเท่ากับเป็นการปฏิเสธข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้หยุดเพื่อมนุษยธรรม และเป็นการปฏิเสธเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้มีการหยุดยิงทันทีอีกด้วย
การหยุดเพื่อมนุษยธรรม หรือ Humanitarian pause ที่สหรัฐฯ เรียกร้องคืออะไร และแตกต่างอย่างไรจากข้อตกลงหยุดยิง
ขณะเดียวกัน หลังการแถลงของเนทันยาฮูปฏิเสธการหยุดยิงชั่วคราวใดๆ บีบีซีก็รายงานความเห็นของเจ้าหน้าที่อาวุโสของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ไม่เผยชื่อซึ่งระบุว่า การหยุดยิงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออิสราเอลรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจว่าฮามาสจะไม่สามารถก่อเหตุโจมตีแบบวันที่ 7 ตุลาคมได้อีกเท่านั้น
ส่วนในเรื่องของการช่วยเหลือตัวประกันก็ยังคงมีความพยายามอย่างหนักที่จะช่วยตัวประกันกว่า 200 คนที่ถูกจับเอาไว้ออกมา แต่ก็ยังไม่มีการรับรองว่าจะบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันได้ และความพยายามช่วยเหลือตัวประกันจำเป็นต้องมีการหยุดท่าทีปฏิปักษ์ต่อกันลงอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างอิงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่คาดว่าอิสราเอลจะเปลี่ยนกลยุทธ์ในสงครามต่อต้านฮามาสในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จากตอนนี้ที่เน้นการทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศในกาซาซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนไปหลายพัน เป็นการให้ความสำคัญกับปฏิบัติการภาคพื้นมากขึ้นเพื่อเป้าหมายกวาดล้างเครือข่ายใต้ดินของฮามาส
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ 3 พ.ย. ก็เป็นครั้งแรกที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าได้ส่งโดรนสอดแนมไร้อาวุธบินเหนือฉนวนกาซาเพื่อ “สนับสนุนการช่วยเหลือตัวประกัน”
โดยการยืนยันนี้มีขึ้นหลังมีเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน Flightradar24 รายงานพบอากาศยานไร้คนขับเอ็มคิว-ไนน์ รีปเปอร์ (MQ-9 Reapers) บินวนเหนือฉนวนกาซา และก่อนหน้านี้เคยมีการส่งโดรนรีปเปอร์ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอัฟกานิสถาน แต่โดยหลักๆ แล้วโดรนนี้ถูกใช้เป็นอากาศยานสอดแนมเนื่องจากมีความสามารถในการลอยอยู่เหนือพื้นที่ได้นานครั้งละกว่า 20 ชั่วโมง
และในขณะที่ไม่มีสัญญาณว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นได้ในเร็วๆ นี้ การบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนในกาซาจากการโจมตีก็ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด กระทรวงสาธารสุขของกาซาระบุว่า เมื่อวานนี้อิสราเอลได้โจมตีขบวนรถพยาบาลในกาซา ซิตี้ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ภาพของซากรถพยาบาลที่ถูกโจมตีโดยอิสราเอลเมื่อวานนี้ ขณะที่ขบวนรถพยาบาลอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่ที่สุดของกาซา ซิตี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน และบาดเจ็บอีก 50 คน ซึ่งรวมถึงผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้รถพยาบาลด้วย
ด้านกองทัพอิสราเอลออกมายืนยันว่า อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศรถพยาบาลคันหนึ่งแต่ไม่ได้บอกว่าการโจมตีเกิดขึ้นในพื้นที่ไหน โดยบอกว่ารถพยาบาลดังกล่าวถูกกลุ่มฮามาสใช้ในปฏิบัติการขนย้ายนักรบและอาวุธแต่ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันข้อกล่าวอ้างนี้ และยังบอกว่ามีนักรบฮามาสถูกสังหารในการโจมตีด้วย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสออกมาปฏิเสธ ขณะที่โฆษกของกระทรวงสาธารสุขกาซาระบุว่า ขบวนรถพยาบาลดังกล่าวกำลังนำชาวปาเลสไตน์ที่บาดเจ็บหนักและต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วนที่อียิปต์ไปส่งทางตอนใต้ของฉนวนกาซา
มีความเห็นจาก ‘อันโตนิโอ กูเตอร์เรส’ เลขาธิการสหประชาชาติที่ออกแถลงการณ์ระบุว่า รู้สึกตกใจอย่างมากกับรายงานการโจมตีขบวนรถพยาบาลนอกโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ในกาซา ภาพศพเกลื่อนถนนนอกโรงพยาบาลสร้างความสะเทือนใจอย่างมาก พร้อมเรียกร้องว่าสงครามนี้ต้องยุติลง
นอกจากนี้ เมื่อวานก็มีการโจมตีโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตอัล-ซัฟตาวี ทางตอนเหนือของกาซา ซิตี้ ซึ่งเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นชาวปาเลสไตน์ กระทรวงสาธารณสุขกาซาบอกว่าเป็นการโจมตีของอิสราเอลและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน
ความรุนแรงของสถานการณ์ในกาซาช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ ‘โทมัส ไวท์’ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการของหน่วยงานเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ของสหประชาชาติ หรือ UNRWA ระบุว่ายูเอ็นสามารถปกป้องชาวปาเลสไตน์ที่พยายามหลบภัยจากการสู้รบได้น้อยลงทุกที นี่ชัดเจนว่าในฉนวนกาซาตอนนี้ไม่มีที่ไหนปลอดภัย
ทั้งนี้ จนถึงตอนนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเป็นผู้เสียชีวิตจากการโจมตีฉนวนกาซากว่า 9,000 คน และเป็นผู้เสียชีวิตในอิสราเอลจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผานมา ราว 1,400 คน